CanonX
neutrino
Offline
Posts: 191
|
 |
« on: April 15, 2013, 06:11:12 PM » |
|
จากกระทู้ http://mpec.sc.mahidol.ac.th/forums/index.php/topic,3249.0.html ข้อ 2.1) จากกฎของฟาราเดย์  1. ผมสงสัยว่าฝั่งซ้ายของสมการนี่เป็น หรือ ครับ สงสัยข้อนี้มากๆเลยครับ หาเหตุผลให้ตัวเองไม่ได้ครับ  2. ฝั่งขวาของสมการคือผลรวมของ emf เหนี่ยวนำตัวเอง  และ emf ภายนอก  ใช่หรือไม่ครับ 3. คำว่า "แรงเคลื่อนไฟฟ้าเหนี่ยวนำ" ในโจทย์ทั่วไป หมายถึง แรงเคลื่อนไฟฟ้าเหนี่ยวนำที่ไม่ใช่เกิดจากการเหนี่ยวนำตัวเองใช่ไหมครับ ขอบคุณมากครับผม 
|
|
« Last Edit: April 16, 2013, 12:39:11 AM by CanonX »
|
Logged
|
|
|
|
krirkfah
|
 |
« Reply #1 on: April 15, 2013, 11:26:03 PM » |
|
คำว่าแรงเคลื่อนไฟฟ้าเหนี่ยวนำ มาก้รวมทั้งการเหนี่ยวนำตัวเองด้วยไม่ใช่หรอครับ 
|
|
|
Logged
|
|
|
|
CanonX
neutrino
Offline
Posts: 191
|
 |
« Reply #2 on: April 16, 2013, 12:09:21 AM » |
|
คำว่าแรงเคลื่อนไฟฟ้าเหนี่ยวนำ มาก้รวมทั้งการเหนี่ยวนำตัวเองด้วยไม่ใช่หรอครับ  ผมว่าผมต้องเข้าใจอะไรผิดแน่เลยครับ - -" รบกวนช่วยดูให้หน่อยนะครับ ตามกฎของฟาราเดย์ emf เหนี่ยวนำมีค่า  ซึ่งเป็น emf เหนี่ยวนำทั้งหมด เขียนกฎของฟาราเดย์อีกรูป  เป็น emf เหนี่ยวนำทั้งหมด ดังนั้น emf เหนี่ยวนำทั้งหมด  มีค่า  แต่เฉลยได้เพิ่มพจน์  เข้าไปด้วยเป็น  ผมเลยคิดว่า emf ที่หาได้จากสมการสุดท้ายนี้น่าจะเป็น emf ที่ไม่ได้มาจากการเหนี่ยวนำตัวเอง ผมเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่าครับ 
|
|
« Last Edit: April 16, 2013, 12:11:41 AM by CanonX »
|
Logged
|
|
|
|
jali
|
 |
« Reply #3 on: April 16, 2013, 08:41:24 AM » |
|
ผมว่าคุณCanonXไม่ควรใช้กฏของฟาราเดย์นะครับ ผมว่าใช้กฏของkirchoffจะดีกว่า แต่ผมสงสัยวิธีของคุณCanonXตรงนี้อ่าครับ ... เขียนกฎของฟาราเดย์อีกรูป ... บรรทัดนี้สรุปข้างขวาสุดออกมาได้อย่างไรครับ
|
|
|
Logged
|
|
|
|
|
krirkfah
|
 |
« Reply #5 on: April 16, 2013, 12:21:43 PM » |
|
ผมคิดว่าน่าจะเป็นอย่างนี้ครับ จากโจทย์เราอาจจะมองว่าระบบที่เราสนใจแบ่งเป็น ตัวเหนี่ยวนำ L (ไร้ความต้านทาน) กับ ตัวต้านทานR (ไร้ความเหนี่ยวนำ) โดยทั้งคู่ต่อนุกรมกันอยู่ จะได้ว่า   แต่ผมยังไม่เข้าใจว่าตอนตั้งต้นมันมีกระแสไหลเข้ามาได้ยังไงหรอครับ  ส่วนในส่วนของ Faraday's law นั้น  น่าจะต้องเป็น Closed Loop ส่วนที่เราพิจารณามันไม่เป็น closed loop ดังนั้นไม่น่าใช้ได้ และไอการจับมันเท่ากับ  ไม่น่าใช่วิธีที่ดีเพราะมันมีความเหนี่ยวนำด้วย ปล.ผมไม่ค่อยแน่ใจเท่าไรครับ ถ้าได้เหตุผลที่ดีกว่านี้จะมาตอบอีกที 
|
|
« Last Edit: April 16, 2013, 12:25:28 PM by krirkfah »
|
Logged
|
|
|
|
CanonX
neutrino
Offline
Posts: 191
|
 |
« Reply #6 on: April 16, 2013, 01:11:09 PM » |
|
กระแสเกิดจากฟลักซ์แม่เหล็กที่เปลี่ยนแปลงเนื่องจากแม่เหล็กที่กำลังตกลงมาครับ แล้วก็ส่วนที่พิจารณาก็เป็นวงลวดปิดด้วยนะครับ คิดว่าใช้กฎของฟาราเดย์ได้นะครับ แต่ว่าผมไม่แน่ใจว่าฝั่งซ้ายของสมการ คือ  มีค่าเป็นเท่าไร และฝั่งขวาของสมการ คือ  มีค่าเป็นเท่าไรครับ รบกวนด้วยครับ 
|
|
|
Logged
|
|
|
|
krirkfah
|
 |
« Reply #7 on: April 16, 2013, 01:50:29 PM » |
|
โทษทีครับไอที่ว่าแม่เหล็กตกลงมานี่ยังไงหรอครับไม่เข้าใจ และข้อความในดจทยืตรงไหนเป็นตัวบอกหรอครับ  ส่วนเรื่อง loop ผมไม่แน่ใจว่าไอแกนสีเขียวมันมีความต้านทานไหม เพราะถ้ามีไม่น่าที่จะคิดแบบที่ทำได้ แล้วก็ถ้าเอาจุดP กับ Q มันก็ไม่เป็น Closed loop หนิครับ
|
|
« Last Edit: April 16, 2013, 03:53:39 PM by ปิยพงษ์ - Head Admin »
|
Logged
|
|
|
|
CanonX
neutrino
Offline
Posts: 191
|
 |
« Reply #8 on: April 16, 2013, 02:16:00 PM » |
|
อ่อๆ ขอโทษครับ ผมเข้าใจว่าคุณ krirkfah ดู link ใหม่ที่ผมให้น่ะครับ
ถ้าโจทย์ข้อเก่า ไม่มีแม่เหล็กอะไรนั่นตกลงมาหรอกครับ ที่พูดหมายถึงโจทย์อีกข้อหนึ่ง (#reply4) ที่น่าจะใช้กฎของฟาราเดย์ในการทำน่ะครับ แต่ผมทำไม่เป็น
|
|
« Last Edit: April 16, 2013, 02:17:43 PM by CanonX »
|
Logged
|
|
|
|
ปิยพงษ์ - Head Admin
|
 |
« Reply #9 on: April 16, 2013, 04:37:19 PM » |
|
1. emf ในวงจรประกอบด้วย 2 ส่วน คือ emf ของแบตเตอรี่หรือแหล่งของ emf และ emf ที่ถูกเหนี่ยวนำจากการเปลี่ยนแปลงฟลักซ์แม่เหล็กที่สอดผ่านวงจร 2. emf จากการเหนี่ยวนำหาได้จากกฎของฟาราเดย์ 3. ในการหาสมการที่อ้างถึง ให้ใช้กฎเคียร์ชอฟฟ์ข้อที่สอง และกฎของฟาราเดย์ (สำหรับส่วน emf จากการเหนึ่ยวนำ) ไม่ใช่หาจากกฎของฟาราเดย์อย่างเดียวตามที่พยายามทำ (ถึงได้สับสน) 4. สำหรับวงจรที่มีความเหนี่ยวนำตัวเอง สามารถเขียน emf เหนี่ยวนำเป็น  โดยมีทิศทางต้านการเปลี่ยนแปลง 5. นิยาม emf ของ วงจรปิด สามารถเขียนเป็น  โดยที่  ในที่นี้คือสนามไฟฟ้าทั้งหมด ณ ตำแหน่งใด ๆ ซึ่งเป็นผลบวกของทั้งสนามอนุรักษ์และสนามไม่อนุรักษ์ รูปแบบของกฎฟาราเดย์แบบนี้ใช้สำหรับหาค่าสนามไฟฟ้าเหนี่ยวนำในกรณีที่มีความสมมาตร ไม่ใช่เอามาหาสมการเพื่อแก้หาค่ากระแสหรืออัตราการเปลี่ยนกระแสอย่างที่พยายามทำ
|
|
|
Logged
|
มีน้ำใจ ไม่อวดตัว มั่วไม่ทำ
|
|
|
krirkfah
|
 |
« Reply #10 on: April 16, 2013, 04:58:15 PM » |
|
ขอบคุณอาจารย์มากครับ แล้วอย่าง link http://mpec.sc.mahidol.ac.th/forums/index.php/topic,3249.0.html ข้อ2.1 ทำไม  คร่อม P กับ Q ถึงเป็น induced emf ได้หละครับ ทั้งๆที่ induced emf มาจากความเหนี่ยวนำไม่ได้มาจากส่วนของความต้านทาน ทำไมถึงเหมารวมกรณีความต้านทานได้ด้วยหละครับ 
|
|
« Last Edit: April 16, 2013, 05:00:13 PM by krirkfah »
|
Logged
|
|
|
|
|
krirkfah
|
 |
« Reply #12 on: April 16, 2013, 05:02:23 PM » |
|
อ๋อคุณ CanonX ลืมรวมความต่างศักย์คร่อมตัว L หนะครับ ซึ่งคือพจน์  หนะครับ
|
|
|
Logged
|
|
|
|
CanonX
neutrino
Offline
Posts: 191
|
 |
« Reply #13 on: April 16, 2013, 05:09:41 PM » |
|
อ๋อคุณ CanonX ลืมรวมความต่างศักย์คร่อมตัว L หนะครับ ซึ่งคือพจน์  หนะครับ  ไม่ได้รวมอยู่ใน  เหรอครับ 
|
|
|
Logged
|
|
|
|
krirkfah
|
 |
« Reply #14 on: April 16, 2013, 05:25:50 PM » |
|
 ที่โจทย์บอกหมายถึงคร่อมทั้งความเหนี่ยวนำและตัวต้านทานครับ(คร่อมจุด P และ Q ครับ)ทำให้เราบอกได้ว่า  เกิดจากสองส่วนคือความเหนี่ยวนำและความต้านทานมาบวกกันเพราะทั้งคู่ต่ออนุกรมกัน(เทียบเป็นวงจรดังที่ได้กล่าวมาแล้วใน Reply #5) ปล.ที่ผมสงสัยก็คือทำไมถึงเรียกรวมกันได้(Reply #10) 
|
|
|
Logged
|
|
|
|
|