next »

[f4]

สำหรับ Problem of the Day นั้น เขาถามนักเรียนพร้อมๆ กันทั้งห้องประชุม และให้เขียนคำตอบพร้อมเหตุผลลงในกระดาษแผ่นประมาณ 1/4 ของกระดาษ A4 โดยให้เวลาประมาณ 10 -15 ในการทำและส่งเดี๋ยวนั้นเลย และเขาจะเฉลยในวันรุ่งขึ้น

คนถามก็ใช้ Power Point อธิบาย และใช้ของจริงประกอบ โดยมีวิดีโอจับภาพเพื่อขยายให้เห็นทั่วกัน ภาษาอังกฤษของคนอธิบายไม่ค่อยแข็งแรงนัก รอบแรกเลยงงกันไปทั่วห้อง ภควัตรีบถามให้อธิบายให้ชัดเจน ช่วยชีวิตเพื่อนๆ ได้หลายคน :-)

แต่ก็มารู้ตอนหลังว่านักเรียนไทยเราตอบแตกต่างกันเป็นแถว โดยเขามีตัวเลือกให้ 6 ข้อ วีบอกว่าเท่าที่ถามๆ กัน รู้สึกนักเรียนไทยเลือกกันเกือบทุกคำตอบแล้ว 

ตัวเลือกก็ได้แก่ ถ้ามองจากด้านบน จะมองเห็นลำแสงสะท้อนเป็นแนวเส้นตรง ผ่านจุดโฟกัส อีกข้อไม่ผ่านจุดโฟกัส ส่วนข้ออื่นๆ จะเห็นลำแสงเป็นเส้นโค้ง คว่ำบ้าง หงายบ้าง ผ่านโฟกัสบ้าง ไม่ผ่านโฟกัสบ้าง รวม 6 ตัวเลือก

[f4]

รายการหลัก หลังจาก Problem of the Day ก็เป็นบรรยายรวม โดย Prof. Osheroff พูดเรื่องการค้นพบ Superfluidity of He-3 พูดประมาณหนึ่งชั่วโมง หลังจากนั้นก็เปิดโอกาสให้นักเรียนถามคำถามกัน คนเปิดคำถามคนแรกคือนักเรียนไทย เจนวิทย์  ต่อมาก็มีคนถามกันใหญ่

จากนั้นก็เบรกกัน แล้วก็ตามด้วย Parallel session แบ่งเป็น 4 ห้องย่อย บรรยายพร้อมกัน

หลังจากนั้นก็ยังไม่พบนักเรียนไทยอีกเลย พบแค่เจนวิทย์เพราะว่าไปฟังห้องเดียวกัน

เดี๋ยวจะไปทานข้าวเย็นกันแล้ว มีการแสดง YoYo โดย World Champion ด้วย คงน่าดูดี

ค่ำคืนนี้ยังไม่จบ ช่วง 20.30 - 21.30 ก็จะมี Evening Talk ต่ออีก แบ่งเป็นห้องย่อย 6 ห้อง คงมีนักเรียนไทยกระจายกันไปเกือบทุกห้อง

แล้วจะมาเล่าให้ฟังต่อค่ะ

good night MPEC people :-)

[f4]

รูปภควัตพยายามให้คนถามคำถามอธิบายคำถามให้ใหม่

และรูปล่าง นักเรียนไทยเข้าไปขอลายเซ็นและถ่ายรูปกับ Prof.Lee ผู้ได้รับรางวัลโนเบลด้านเคมี

[Blackmaglc]

โอ้โห    แค่วันแรกๆก็ฟังบรรยาย อบรมกันเข้มข้นมากเลยครับ     

เห็นโปรแกรมแล้วแน่นจริงๆครับ

[f4]

วันนี้วันที่สามของงานแล้ว (5 สิงหาคม 2551)

เริ่มต้นงานเวลาประมาณ 8.00 น. ด้วยการบรรยายของ Prof.Chintamani นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำชาวอินเดีย เขามาพูดเรื่อง NanoWorld ประมาณหนึ่งชั่วโมง จากนั้นก็เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ซักถามกัน (เป็นอย่างนี้ทุกๆ ครั้งที่มีการบรรยาย) โดยให้นักเรียนเขียนคำถามลงกระดาษและส่งให้ LO และส่งต่อให้ผู้ดำเนินรายการเป็นคนคัดเลือก เช้านี้นักเรียนไทยเขียนคำถามส่งกันทุกคนแต่ไม่มีใครได้รับเลือกให้ลุกขึ้นถามเลย สงสัยคู่แข่งเยอะไปหน่อย แต่ไม่เป็นไร ยังมีโอกาสอีกหลายรายการ

พอตอนสายๆ ก็เป็นการแบ่งห้องย่อยบรรยายอีกแล้ว คราวนี้เราไปห้อง Prof.Osheroff นักฟิสิกส์รางวัลโนเบล นักเรียนไทยที่อยู่ห้องนี้ด้วยคือ เจนวิทย์ กับดิษยรินทร์ ฟังบรรยายเรื่อง How Advances in Science are Made เขาพูดเรื่องการค้นพบของเขาผสมผสานกับข้อแนะนำดีๆ สำหรับการเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ดี เทคนิคในการทำงาน การทำวิจัย พูดดีมาก

และในที่สุดคำถามของนักเรียนไทยก็ผ่านตากรรมการได้รับคัดเลือกให้ลุกขึ้นถาม คนนั้นคือ เจนวิทย์ ซึ่งถามว่า จะทำอย่างไรให้สังคมที่ไม่ค่อยใส่ใจกับงานด้านวิทยาศาสตร์ให้มีการตื่นตัวกันมากขึ้นในด้านวิทยาศาสตร์ (คิดว่าถามทำนองนั้นนะคะ)  นักเรียนจากประเทศอื่นๆ หลายคนก็ถามคำถามทั่วไปเกี่ยวกับการเป็นนักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบล น้อยคนที่จะถามเจาะจงลงไปในงานวิจัยที่เขาทำ ซึ่งก็ไม่เลว เพราะทำให้หลายคนที่ไม่ได้ชอบหรือสนใจฟิสิกส์นัก สามารถเข้าร่วมฟังได้

ความจริงแล้วตอนบ่ายนี้หลังจากการบรรยายภาคบ่ายหนึ่งชั่วโมง นักเรียนจะได้ร่วมกิจกรรมกีฬา ศิลหะ หรือไม่ก็ดนตรี แต่เขาเปลี่ยนเป็นให้นักเรียนทุกคนไป Palace เพื่อไปพบประธานาธิบดี Dr. Susilo Bambang Yudhoyono โดยที่พวก Observer ไม่ได้ไปด้วย แงง    ให้นักเรียนกับพวก Speakers ไปกันเท่านั้น เราก็เลยมีเวลาว่างที่จะทำอะไรก็ได้ เฮ  พวก Observer จึงรวมหัวกันจะเช่ารถออกไปเที่ยว ช้อปปิ้ง ว่ายน้ำ กิน ดื่ม เฮ     คงไม่ได้เจอนักเรียนจนกระทั่งวันพรุ่งนี้     

[f4]

ในที่สุดมีเวลาวาดรูปอธิบาย Problem of the Day I  จนได้ค่ะ เพราะว่าวันนี้มีเวลาว่างหลังทานข้าวเที่ยงหนึ่งชั่วโมง

ถ้าอ่านคำอธิบายที่เขียนไว้ประมาณในหน้าแรกของกระทู้นี้ นี่คือรูปประกอบค่ะ

รูป (1) คือภาพปกติที่เราเห็นบนฉาก เมื่อฉาย laser จาก laser pointer ไปตรงๆ บนฉาก คือจะเห็นเป็นจุด
รูป (2) คือเมื่อใส่ cylindrical lens ไว้หน้า pointer ภาพที่เห็นบนฉากคือเป็นเส้นตรง ซึ่งในรูปนี้เราจัดให้ได้เส้นตรงในแนวดิ่ง
รูป (3) คือเมื่อบิด cylindrical lens ไป เราเส้นบนฉากที่เคยอยู่ในแนวดิ่งก็จะบิดไปด้วย

[f4]

คราวนี้ถ้าเรานึกว่าเราเป็นคนถือ laser pointer ไว้ที่พุงเรา แล้วฉายไปบนผนังด้านหน้าเรา เราก็จะเห็นรูปที่ (2) กับ (3) กลายเป็นรูปซ้ายและขวานี้ ตามลำดับ

[f4]

ต่อไป ถ้าเราให้คนอื่นมาถือ laser pointer ไว้แทนเรา และเอากระจกระนาบมาติดบนผนังเพื่อรับแสงเลเซอร์ แถมด้วยว่าถ้าเราสามารถปีนขึ้นไปเกาะบนเพดานได้ เราก็ขึ้นไปเกาะแล้วก็มองลงมาจากเพดาน  สิ่งที่เราเห็นคือรูปเหล่านี้

[f4]

ต่อไปเป็นคำถาม

ถ้าเรายังเกาะเพดานได้อยู่ และให้เพื่อนอีกคนเปลี่ยนกระจกระนาบเป็นกระจกโค้งเว้าแทน เราจะมองเห็นแสงที่สอนท้อนจากกระจกโค้งเว้าเป็นอย่างไร

นี่คือภาพตัวเลือกที่ถ่ายมาได้

[Ray]

อยากเห็นรูปถ่ายอาจารย์กับบรรยากาศที่นั่นบ้างค่ะ 

[ปิยพงษ์ - Head Admin]

... คราวนี้เราไปห้อง Prof.Osheroff นักฟิสิกส์รางวัลโนเบล นักเรียนไทยที่อยู่ห้องนี้ด้วยคือ เจนวิทย์ กับดิษยรินทร์ ฟังบรรยายเรื่อง How Advances in Science are Made เขาพูดเรื่องการค้นพบของเขาผสมผสานกับข้อแนะนำดีๆ สำหรับการเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ดี เทคนิคในการทำงาน การทำวิจัย พูดดีมาก

...

อยากรู้จังว่าข้อแนะนำดี ๆ มีอะไรบ้าง 

เห็นในโปรแกรมว่าวันที่สี่ของการประชุมฯจะไปป่าลิงกัน  ระวังหน่อยนะ ลิงมันค่อนข้างดุ และขี้ขโมย บางคนมันถอดแว่นออกไปจากหน้าดื้อ ๆ เลย และบางทีก็กระชากกล้องถ่ายรูปไป  ต้องเอากล้วยไปแลก มันถึงจะยอมคืน 

[neenee]

พวก Observer จึงรวมหัวกันจะเช่ารถออกไปเที่ยว ช้อปปิ้ง ว่ายน้ำ กิน ดื่ม เฮ     

ตกลงว่าได้ไปเที่ยวที่ไหนบ้างครับ 
อาจารย์นฤมล นักศึกษาปีหนึ่งฝากถามว่าสนุกหรือเปล่า   ส่วนนักศึกษาปีสามฝากบอกว่าอยากจะขอยืมเงินไปใช้กิจกรรมค่ายเสริมสร้างศักยภาพ

[phys_pucca]

พวก Observer จึงรวมหัวกันจะเช่ารถออกไปเที่ยว ช้อปปิ้ง ว่ายน้ำ กิน ดื่ม เฮ     

ตกลงว่าได้ไปเที่ยวที่ไหนบ้างครับ 
อาจารย์นฤมล นักศึกษาปีหนึ่งฝากถามว่าสนุกหรือเปล่า   ส่วนนักศึกษาปีสามฝากบอกว่าอยากจะขอยืมเงินไปใช้กิจกรรมค่ายเสริมสร้างศักยภาพ

ทำไมน้องปีหนึ่งกับปีสามถึงได้ฝากข้อความมาหาอาจารย์ได้แตกต่างกันเยี่ยงนี้ 

ว่าแต่ผมก็อยากเห็นภาพบรรยากาศตอนออกไปเที่ยวในบาหลีเหมือนกันครับ 

[f4]

วันนี้วันพฤหัสฯที่ 7 ส.ค. แล้ว

เมื่อวานนี้อยู่ข้างนอกเกือบตลอดเลยไม่ได้มีโอกาสเข้ามาเล่าเรืองต่อ จะเล่าเรื่อเมื่อวาน (วันพุธ) ก่อนละกันค่ะ

เริ่มต้นวันด้วยบรรยายตามห้องย่อยต่างๆ แต่ว่าเราไม่ได้เข้าฟังเพราะต้องไปเป็นตัวแทนใน International Board Meeting ซึ่งประธานคือ Prof.Lee นักเคมีรางวัลโนเบลจากไต้หวัน และกรรมการก็มี Prof.Koshiba นักฟิสิกส์โนเบลจากญี่ปุ่น, Prof.Lin เลขาฯ ASC จากไต้หวัน ประธานจัดงานครั้งที่ 1, Prof.Surya จากอินโดนีเซีย ประธานจัดงานครั้งนี้ และกรรมการจัดงานครั้งต่อไปจากญี่ปุ่นอีก 3-4 คน

พวกเราเหล่า Observers จากประเทศต่างๆ ถูกต้อนให้เข้าประชุมด้วย (ซึ่งตัวเราเองต้องเข้าอยู่แล้วล่ะ) โดยที่ทุกคนนุ่งยีนส์ สวมเสื้อยืด ASC ที่ดูคิขุอาโนเนะ บางคนสวมหมวก ASC ด้วยซ้ำ เดินเข้าในห้องประชุมซึ่งเขาคุยกันไปนานแล้วล่ะ รู้สึกแปลกดี

แต่ที่ประชุมก็เป็นกันเองดี เขาคุยกันว่าครั้งต่อๆ ไปจะมีการเปลี่ยนแปลง ปรับปรุงอะไรบ้าง เราควรเชิญใครมาบ้าง ทีมญี่ปุ่นก็ชี้แจงแผนการจัดงานของเขาในปีหน้า ซึ่งจะจัดที่สถาบัน KEK ใกล้ๆโตเกียว   สุดท้าย Prof.Lee ก็ถามความคิดเห็นจากพวกเรา Observers บ้าง ก็แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันไป

อ้อ ปีหน้าครั้งที่สามจัดที่ญี่ปุ่น ครั้งที่สี่ จัดที่ฮ่องกง และครั้งที่ห้า ..... ทายซิ ใครเอ่ย ..... ใช่แล้ว ประเทศไทยเรานี่เอง

ข้างล่างเป็นรูปที่ยืนยันว่าเราได้เข้าประชุมกับ Prof.Koshiba จริง อิ อิ 

ส่วนรูปถัดไปเป็นวิวที่มองเห็นจากห้องประชุม Board

[f4]

วันพุธ ที่ 6 ส.ค. (ต่อ)

หลังจาก International Board Meeting ก็เป็นการบรรยายห้องใหญ่โดย Prof.Lee เรื่อง Dynamics of Chemical Reaction & Photo-Chemical Processes เขาพูดยาวมาก ลงรายละเอียดค่อนข้างเยอะและเกินเวลาพอสมควร ทำให้เด็กๆ ที่นั่งแถวหลังๆ (ซึ่งเรานั่งอยู่ด้วย) คุยกันแหลกลาน ไม่ต่างกับนักเรียนไทยเลย 

จากนั้นก็ต่อด้วย Panel Discussion  เรื่อง The Responsibility of Scientists in Our Time โดย Prof.Ernst, Prof.Koshiba และ Prof.Gross ล้วนเป็นนักวิทย์โนเบลทั้งสิ้น ต่างคนต่างก็แสดงความเห็นของตน โดย Prof.Koshiba พูดถึงนักวิทย์ที่ต้องสร้างระเบิดนิวเคลียร์ แล้วนักการเมืองก็เป็นคนกดปุ่มใช้งาน ... สะเทือนอารมณ์

หลังทุกคนพูดจบ ก็เป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ซักถาม คราวนี้มีนักเรียนได้ถามประมาณ 5-6 คน หนึ่งในนั้นเป็นนักเรียนไทย เฮ  เขาก็คือ ธันยวีร์

และนี่เป็นรูปยืนยัน