ต่อไปนี้เป็นรายงานจากณภัทร
สนามบินสุวรรณภูมิ - กี่โมงก็ไม่รู้เหมือนกันหลังจากเสร็จพิธีส่งแล้ว พวกเราเข้ามา check in ที่ terminal เท่าไรก็ไม่รู้ รู้แต่ว่ามันอยู่ตรงข้ามกับไอ้ที่เราทำพิธีถ่ายรูปอะไรนั่นเลย เราก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่นัดมาถ่ายรูปตรงที่มันใกล้ๆกับที่ check in เราจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเดิน แต่ก็ช่างเถอะ การ check in ผ่านไปได้ด้วยดี(มั้ง) ปีนี้นอกจากอาจารย์ที่คุมทีมไป ก็มีอาจารย์จากมหาวิทยาลัยเกษตร ตามไปด้วยเพราะว่าเค้าจะต้องเป็นเจ้าภาพในการแข่ง APhO ปีหน้า

อาจารย์ รันบีร์ ซิงห์ จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
สนามบินสุวรรณภูมิ - หลังจาก check in แล้ว เราเข้ามาเดินเล่นข้างในสนามบิน ตรงที่เป็นร้าน duty free อารมณ์ประมาณว่า อยากจะซื้อของถูกๆตุนไว้กินตอนสอบ
(ก็มัน duty free มันก็น่าจะถูกจิงปะ) แต่มันไม่ถูกเลยซักนิดหนึ่ง นี่ขนาดมัน ไม่มีภาษีนะ ยังแพงกว่าข้างนอกอีก
เอ่อ แต่ไอ้เรื่องที่รู้สึกว่าโง่มากนี่ก็คือ หลังจากซื้อขนมอาไรพวกเนี้ยเสร็จแล้ว เราก็เดินไปเรื่อยๆ ตอนนั้นหิวน้ำ กับหิวข้าวมากๆเลย แล้วก็อ่า มีร้านข้าวหน้าเป็ด( จะเรียกให้หรูกว่านี้ก็ได้ แต่ความจริงมันก็คือข้าวหน้าเป็ดหน่ะแหละ) แล้วก็มีน้ำขายด้วย พวกเราก็เลย เข้าไปนั่ง เสร็จแล้วก็ลุกไปจะหยิบน้ำกิน พอเห็นราคาแล้ว
. นั่นแหละรู้ๆกันอยู่ แต่ก็นะ พอมีบางคน( ถ้าเอาให้เจาะจงก็คือเรากับโพ ) ทนความอยากไม่ไหว ซื้อน้ำขวดราคาเป็นร้อยมากิน พวกที่เหลือก็สติแตก สั่งข้าวหน้าเป็ดจานละ 180 บาทมากินตามหลังจากนั้นพวกเราและพวกอาจารย์ก็นั่งคุยกันซักพัก แล้วก็เดินไปรอที่หน้าเกท

ข้าวขาหมูขั้นเทพกับน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่กินไปแล้วอาจจะบินได้

สนามบินสุวรรณภูมิ - ประมาณ ตี 1
พวกเรามาถึงหน้าเกทกันแล้ว คราวนี้ไม่มีการให้โอวาทอะไรเหมือนครั้งก่อน ตอนนั้นกำลังเริ่มง่วงแล้ว ต่างคนก็แยกไปคนละมุม บางคน(เช่นเรา) ก็ไล่ถ่ายรูปชาวบ้าน 5555 เล่นไปเล่นมาประมาณ 20 นาทีมั้ง พวกเราก็ขึ้นเครื่อง





เอิร์ธ จิโระ เกรท กวิน อาจารย์แอ๋ว = =
บนเครื่องบินเที่ยวบิน CA 480 หลังจากขึ้นเครื่องแล้ว
ปีนี้ไม่รู้จะเรียกว่าโชคดีได้รึเปล่าที่พวกเราทุกคนได้นั่งที่ใกล้ๆกันหมด ( นั่งการบินไทยโดนจับแยก นั่งการบินจีน ChinฟAirline ได้นั่งด้วยกัน เทพมั้ยล่ะ ที่นั่งก็ค่อนข้างจะแคบ แต่อย่างว่าพวกเรานั่งชั้น economic พอเข้าใจๆ พอนั่งไปซักพักเค้าก็ปิดไฟ เหมือนจะให้พวกเรานอน เราแอบเสียดายนิดๆที่มันไม่มีข้าวให้กินเพิ่ม ส่วนไอ้สองสามคนที่มันกินข้าวหน้าเป็ดศักดิ์สิทธิ์ไป คงไม่อยากกินแล้ว 555 อื้ม แต่ไม่เป็นไร นอนก็นอน แต่ว่า พอมันปิดไฟไปได้ซักครึ่งชั่วโมง พอกำลังเคลิ้มๆนี่ มันก็เปิดไฟใหม่ บ้าเอ๊ย แล้วจะปิดไฟตอนแรกไปทำไม แล้วเค้าก็เอาน้ำมาเสิร์ฟ อาหารที่เค้ามีก็จะมีสองอย่าง คือ เป็นเส้นผัด (มันคงเป็นก๋วยเตี๋ยวแหละแต่ไม่รุมันเรียกว่าอะไร เรียกว่าเส้นแล้วกัน) กับเป็นข้าวผัด กินเสร็จแล้ว หนังท้องตึง หนังตาก็หย่อน เราก็หลับไปแบบไม่รู้ตัว เราตื่นขึ้นมาเพราะว่า มันสว่างแล้วดูเหมือนว่าจะเพิ่งนอนไปได้ไม่กี่ชั่วโมงเอง แต่ตื่นก็ตื่น หลังจากนั้นไม่เท่าไหร่เค้าก็ลงจอดที่สนามบินนานาชาติปักกิ่ง(เหมือนเค้าจะมีชื่อด้วยแหละแต่เราไม่รู้ว่าเค้าเรียกว่าอะไรกัน)
สนามบินปักกิ่ง ประมาณเจ็ดโมง เวลาท้องถิ่น (ประมาณ 6 โมงเช้าที่ไทย)
ตอนนี้เราก็ต้องรีบกันแล้ว เพราะว่าเครื่องจะออกจากที่นี่ประมาณ 8โมงเช้าตามเวลาท้องถิ่น ถ้าไม่รีบ เราตกเครื่องแน่ๆ
เราลงมาจากเครื่องบินแล้วก็ได้สัมผัสอากาศหนาวครั้งแรกในรอบหลายๆๆๆๆเดือน (ความรู้สึกมันเหมือนจะนานเป็นพิเศษ เพราะที่ไทยมันร้อนมากๆๆๆ) พอเราเข้าถึงข้างในเราก็รีบหาเครื่องที่จะไป อูราลบาตอร์ ทุกคนพอผ่านด่าน ตอมอ มาก็
รีบไปที่เกทนเลย มีเรากับตุง ที่แวะไปเข้าห้องน้ำก่อน พอออกมาก้อ
ไม่เห็นใครแล้ว = = ซวยแล้วไง ตอนนี้เริ่มจินตนาการถึงความเลวร้ายถ้าหากเราตกเครื่องแค่สองคน สงสัยคงจะแปรสภาพกลายเปนขอทานปักกิ่งไปแน่ๆเลย คิดไปคิดมา เรากับตุงเลยวิ่งหน้าตั้งไปที่ Gate E04 (เริ่มวิ่งตั้งแต่ E 10) บ้าแท้ๆ
สนามบินปักกิ่ง ประมาณแปดโมง เวลาท้องถิ่น
เรากับตุงไปถึงเกท E04 แล้ว ปรากฏว่า เครื่องดีเลย์ 55555 แล่วจะรีบวิ่งมาทำไมวะนี่ยยย ฟังจากประกาศแล้วเครื่องจะเปลี่ยนจากออกแปดโมงเป็น สิบเอ็ดโมง หมายความว่า เราไม่ตกเครื่องแน่ๆ แต่เราก็ต้องนั่งจ๊งอยู่ในสนามบินอีกสองชั่วโมงเพราะฉะนั้นตอนนี้เราก็ว่างงาน มีเวลานั่งเล่นในสนามบิน ที่สนามบินเราเจอกับเด็กจีนที่มารอเครื่องบินเหมือนกัน โพเลยนำทัพเข้าไปคุยกับเค้า เราก็เลยรู้ว่า เด็กจีนก็ตื่นมาสนามบินตั้งแต่ตีสี่ เพราะตามกำหนดการณ์แล้วเครื่องมันออก 8 โมง แต่ก็มารับชะตากรรมเดียวกับเรา
สนามบินปักกิ่ง ประมาณเก้าโมงครึ่ง เวลาท้องถิ่น
มีประกาศบอกว่า
เครื่องบินดีเลย์อย่างไม่มีกำหนดเนื่องจากสภาพอากาศเลวร้ายมาก ให้มันได้ยังงี้สิ = =
เค้าก็เลยให้พวกเราออกจากสนามบินก่อน เพื่อไปยังที่พักพิเศษที่เค้าเตรียมให้ไว้ อืมเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าโชคดีโชคร้าย
อย่างน้อยๆ เราก็ไม่ตกเครื่องบิน แล้วก็ไม่ต้องรอเฝ้าสนามบิน ส่วนเครื่องบินนี่
มันอาจจะตกไปแล้วก็ได้
โรงแรมอะไรก็ไม่รู้ในปักกิ่ง ประมาณสิบเอ็ดโมงครึ่งเวลาท้องถิ่น
เจ้าหน้าที่ของโรงแรมพาเราขึ่นรถบัสของสนามบิน มาที่โรงแรมอะไรก็ไม่รู้ แล้วก็ให้เอา boarding pass ไปแลกกับกุญแจห้อง ห้องนอนที่โรงแรมนี้ เรียกว่าดีมากๆเลย มีอ่างอาบน้ำ มีโซฟาที่นุ่มมากๆ แบบว่า นั่งทียวบลงไปทั้งตัว พวกเราบางคนก็แช่น้ำอุ่นๆ แต่พออาบน้ำเสร็จก็ต้องใส่ชุดเดิม เพราะว่า ชุดที่เราเอามาเปลี่ยนกัน มันอยู่ใน luggage ที่เราเอาลงใต้เครื่อง หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง เราก็ลงไปกินข้าวที่ restaurant ของโรงแรม ซึ่งเค้าก็เลี้ยงข้าวพวกเราเหมือนกัน อาหารไม่ได้ดีมาก แต่ก็ไม่ถึงกับแย่ จริงๆก็อร่อยน่ะแหละ (ตกลงไงกันแน่นี่) นี่ขนาดไม่ได้มาทัวร์เลยนะนี่ เรายังเป็นคนกินฟรีกันได้ 5555 หลังจากกินข้าวเสร็จเพื่อนๆ กับอาจารย์ก็ลงไปซื้อของที่ตลาดแถวๆโรงแรม ส่วนเราง่วงมากเลยขอตัวไปนอนก่อน ตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ชะตากรรมว่าเราจะได้ไปที่ อูลานบาตอร์กี่โมง
โรงแรมอะไรก็ไม่รู้ - ประมาณ 5 โมงเวลาท้องถิ่น
โพมาปลุกเราให้ไปกินข้าว ที่เดิม อาหารก็เป็นอาหารแบบเดิม หลังจากตอนนั้นพวกเราก็แยกย้ายกลับไปที่ห้อง แล้วก็มีประกาศว่า รถที่จะมารับพวกเรา จะมากันประมาณหนึ่งทุ่มให้รีบเก็บของ แล้วลงไปรอกันข้างล่าง จากนั้นแป็ปหนึ่งพวกเราก็นั่งรถบัสของสนามบิน กลับมาที่สนามบินเหมือนเดิม
สนามบินปักกิ่ง ประมาณทุ่มครึ่ง
ในที่สุดเราก็กลับมาที่สนามบินแล้ว หลังกจากผ่านขั้นตอนการตรวจ การรับ boarding pass ใหม่ ซึ่งเครื่อง CA 901 ที่ตอนนี้เรารู้แล้วว่ามันไม่ได้ไปโหม่งรันเวย์ที่มองโกเลียมา จะออกจากสนามบินตอน สี่ทุ่ม สรุปแล้วก็ต้องมารออีกอยู่ดี ระหว่างที่รอ ต่างคนก็แยกย้าย ไปทำอะไรตามใจชอบ บางคนเล่นเกม บางคนเขียนบันทึก บางคนอ่านหนังสือ


สนามบินปักกิ่ง ประมาณ สี่ทุ่ม
เอ่อตอนนี้เริ่มมีปัญหา ซะแล้ว เครื่องบินที่กำหนดการณ์ว่าจะออกตอนสี่ทุ่ม ปรากฏว่า ไม่มีนักบิน บินไป = = บ้าที่สุด นี่ต้องรออีกแล้วหรอนี่ ฝูงชนเที่ยวบิน CA 901 ที่โกรธแค้น เริ่มเข้าไปรุมสกรัมเจ้าที่หน้าสนามบิน พร้อมกับด่าทออย่างโกรธแค้น (แปลโดยเอิร์ธ) อารมณ์ประมาณว่า ชั้นจะต้องไปวันนี้ให้ได้นะ ไม่งั้นชั้นจะฟ้อง
มีผู้ชายคนหนึ่งโกรธมาก ถึงกับผลักอกผู้หญิง (ผลักด้วยความโมโหนะ อย่าคิดลึก) ตอนนี้สถานการณ์วุ่นวายมากมาย บางคนเริ่มปลงสังเวชนอนในสนามบินแล้ว

ผู้โดยสารเที่ยวบิน CA 901 ที่โกรธแค้น ร่วมกันชุมนุม
สนามบินปักกิ่ง ประมาณห้าทุ่มสิบนาทีเวลาท้องถิ่น
เย้ นักบินมาแล้ว ทุกคนปรบมือต้อนรับด้วยความดีใจ ตอนนี้เราต้องรีบเก็บของแล้วเพื่อจะไปขึ้นเครื่องซักที ถ้าหากคุณได้เห็นบันทึกฉบับนี้แสดงว่า เราไปถึงอูลานบาตอร์อย่างปลอดภัยแล้วว ใครที่หวังจะให้ณภัทร เครื่องบินแหกโค้งหลุดรันเวย์ตาย ก็เสียใจด้วยละกาน
เจอกันใหม่ในบันทึกฉบับหน้า