
ใช่ว่าผมจะไม่เข้าใจนะครับ ไม่งั้นคงไม่บอกว่า...........
ที่ออกมาพูด ผมก็ไม่มีอะไรหรอกนะครับ ใจหนึ่งผมก็อดสงสารคนที่เขาอุตส่าห์เสียเวลาแปล เสียเวลาค้นคว้า ไม่ได้ กว่าจะได้ตำราออกมาแต่ละเล่มต้องลงทุนและเสียเวลาไปมากที่เดียว ผมเองก็อยากจะอุดหนุนหนังสือของพวกท่านอยู่หรอกครับ แต่ราคาแพงขนาดนั้นผมจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อ.....

จึงคิดว่า ถ้าอยากให้หนังสือขายดี ไม่ควรจะมีราคาแพงมาก เพราะถ้าแพงมาก มันก็จะเป็นอย่างที่ผมพูด...หละนะ...

บางครั้ง มันก็จำเป็นต้องถ่ายเอกสารหละนะครับ 1.มันราคาแพงไม่มีเงินซื้อ(แต่คนที่มีเงินคงไม่มีปัญหา) 2.ยืมแต่ห้องสมุดก็ไม่ได้ ไกล้สอบไม่มีอ่า่น (จึงต้องยืมจากห้องสมุดไปถ่ายเอกสาร)
ผมยอมรับตามตรง ผมก็คนนึงหละ ซื้อน้อยมาก ส่วนใหญ่มีแต่ถ่ายเอกสาร โดยเฉพาะพวก textbook ตอนแรกผมกะว่าจะซื้อแต่ไปดูราคาแล้วเงินไม่พอ (ราคาประมาณแปดร้อยกว่าบาท) เลยต้องยืมจากห้องสมุดไปถ่ายแทน ไม่ใช่มีแต่ผมหรอกนะครับ ทึ่ใช้วิธีถ่ายเอกสาร รุ้่นพี่ที่เรึียนมหาวิทยาลัยต่างๆ หรือ เพือนๆ ก็ใช้วิธีเดียวกันนี้
ยังไงก็อย่าว่ากันเลยนะครับ คนมันไม่มีเงิน�
ถึงคนเขียนจะไม่ได้กำไลจากพวกผม� แต่ในฐานะที่คุณเป็นผู้แต่ีง หรือ ผู้แปล ยังไงคุณก็ได้คุณความดี ที่ในทางพระพุทธศาสนาเรียกว่า "บุญ" การให้วิทยาทานความรู้ถือเป็นการทำทานที่ยิ่งใหญ่และได้ผลบุญมากที่สุด
ต่อให้แต่งหนังสือเพีียงแค่เล่มเดียว..ถ้้าบาปบุญมีจริงผมคิดว่าคุณในฐานะผู้่แต่งหรือผู้แปล� คุณคงเอารถสิบล้อสักสิบคันมาขนบุญกลับไปไม่หมด�

ไม่ว่าจะชาติหนี้หรือชาติต่อๆ ไป (ต่อให้ตายไป ถ้ามีคนเอาหนังสือคุณมาอ่าน คุณก็ได้บุญอีกแหละ)